นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้าและคู่ค้า ของบริษัท ไฮเดลเบิร์ก กราฟฟิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด

บริษัท ไฮเดลเบิร์ก กราฟฟิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (“บริษัท”) เคารพและให้ความสำคัญในสิทธิความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เป็นลูกค้าและคู่ค้าของบริษัท จึงได้จัดทำนโยบายฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบถึงนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทต่อข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการประมวลผลในกิจกรรมบริษัท โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. คำนิยาม

ข้อความ

คำอธิบาย

กฎหมายคุ้มครองข้อมูล

ส่วนบุคคล

พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงกฎ ระเบียบ และวิธีปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง

การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Processing of Personal Data)

การดำเนินการใดๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การจัดเก็บ รวบรวม การบันทึก การจัดระบบ จัดโครงสร้าง การอัปเดตหรือการแก้ไข การดึงข้อมูล การใช้ การเปิดเผยด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือ การกระทำใดๆ เพื่อให้พร้อมใช้งาน การรวม การลบหรือการทำลายข้อมูล

ข้อมูลส่วนบุคคล

(Personal Data)

ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ชื่อ นามสกุล อีเมล รูป ลายนิ้วมือ รหัสประจำตัว หรือเลขบัตรประจำตัวประชาชน cookies และหมายรวมถึงข้อมูลที่หากนำไปใช้ร่วมกับข้อมูลอื่นแล้วจะทำให้สามารถระบุตัวบุคคลได้ เช่น ที่อยู่ เพศ และอายุ

ข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Personal Data)

ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งจะมีผลกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในลักษณะเดียวกัน

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject)

บุคคลซึ่งสามารถถูกระบุตัวตนได้โดยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม

บริษัท

บริษัท ไฮเดลเบิร์ก กราฟฟิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller)

ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processor)

บุคคลหรือนิติบุคคลที่ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

เจ้าหน้าที่ประสานงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Coordinator)

เจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยบริษัทเพื่อให้ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแล ดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เว็บไซต์

เว็บไซต์ที่บริษัทไฮเดลเบิร์ก กราฟฟิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ใช้ในการเปิดเผยข้อมูลต่างๆ สำหรับการดำเนินธุรกิจ

2. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

2.1 บริษัทจะเก็บรวมรวมข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นในการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ต่างๆ ที่กำหนดไว้ และเท่าที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอม

2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทใช้ในการประมวลผลอาจเป็นข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ไว้ หรือเป็นข้อมูลที่มีอยู่ในฐานข้อมูลของบริษัท หรือเป็นข้อมูลที่บริษัทได้รับจากแหล่งอื่นที่น่าเชื่อถือ เช่น ข้อมูลจากหน่วยงานราชการ เป็นต้น

2.3 ในกรณีเจ้าของข้อมูลไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลอย่างบางกับบริษัท หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในฐานข้อมูลบริษัทไม่ถูกต้อง อาจส่งผลกระทบต่อการทำธุรกรรมร่วมกันกับบริษัท หรืออาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้ หรืออาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายใด ๆ ที่ท่าน หรือทางบริษัทต้องปฏิบัติตาม

2.4 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้

2.4.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป (Personal Data)

  • ข้อมูลแสดงตัวตนของเจ้าของข้อมูลและข้อมูลการติดต่อ เช่น ชื่อและนามสกุล รูปภาพ เสียง เลขประจำตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง เพศ วันเกิด อายุ สถานภาพ ที่อยู่ อาชีพ สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรสาร อีเมล เป็นต้น

  • ข้อมูลที่ใช้ประกอบเป็นหลักฐาน หรือในการทำธุรกรรมต่าง ๆ เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในสำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาใบอนุญาตขับขี่ เลขทะเบียนรถยนต์ สำเนาหนังสือมอบอำนาจ สำเนาหนังสือรับรองบริษัท ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน ใบสำคัญจ่าย และสำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือธุรกิจ เป็นต้น

  • ข้อมูลเพื่อตรวจสอบการเข้าสู่ระบบหรืออาคารสถานที่ เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิด (CCTV), ข้อมูลระบบซอฟต์แวร์, ข้อมูลการเข้าถึงระบบอินเตอร์เน็ต, ข้อมูลส่วนบุคคลในอีเมลและการใช้งานโทรศัพท์ เป็นต้น

  • ข้อมูลด้านเทคโนโลยี เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) ประเภทของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้เปิดดูเว็บไซต์ (Browser) การใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ในเว็บไซต์ และข้อมูลที่บริษัทได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookie) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายกัน เป็นต้น

2.4.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Personal Data)

เป็นข้อมูลส่วนบุคคลตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งจะมีผลกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในลักษณะเดียวกัน

บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลอ่อนไหวตามที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมไว้ หรือตามกรณีอื่นใดที่กฎหมายกำหนด

2.5 ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ หรือที่กำหนดไว้ในนโยบายฉบับนี้ ทั้งนี้บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการประมวลผลไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่สัญญาสิ้นสุด หรือวันที่ยุติความสัมพันธ์กับบริษัท เว้นแต่ เป็นการเก็บเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเก็บตามอายุความของกฎหมายในการฟ้องร้องและการบังคับคดี ซึ่งเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้น บริษัทจะดำเนินลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้

3. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

1) เพื่อการยืนยันและพิสูจน์ตัวบุคคลสำหรับการดำเนินงานของบริษัท เช่น การยืนยันตัวตนบุคคลโดยสำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทาง ที่อาจปรากฏข้อมูลศาสนา หมู่เลือด และข้อมูลเชื้อชาติได้ เป็นต้น

2) เพื่อการเข้าทำและการปฏิบัติตามสัญญาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการดำเนินการใดๆ ที่จำเป็นก่อนการเข้าทำสัญญาดังกล่าว

3) เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดต่อสื่อสาร ประสานงาน หรือการดำเนินงานร่วมกัน

4) เพื่อบันทึกฐานข้อมูลทางบัญชีของบริษัท การออกใบแจ้งหนี้ การทำการเบิกจ่ายเงินและการรับเงิน รวมถึงการทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ และการดำเนินการทางบัญชีของบริษัท ตลอดจนการดำเนินการตามคำขอต่าง ๆ ของลูกค้าหรือคู่ค้า

5) เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท เช่น กิจกรรมทางการตลาด การสัมมนา ดูงาน เป็นต้น

6) เพื่อวัตถุประสงค์ในการประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสาร โปรโมตสินค้า แคมเปญการขาย หรือกิจกรรมทางการตลาดของบริษัทอื่นๆ

7) เพื่อการวิเคราะห์ทางการตลาดจากกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ จากการสอบถามความคิดเห็น หรือจากการเข้าใช้บริการเว็บไซต์ของบริษัท

8) เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย

4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้ไว้เท่านั้น โดยในบางกิจกรรมของบริษัทจะมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลหรือหน่วยงานดังต่อไปนี้

1) หน่วยงาน หรือบุคลากรภายใต้บริษัทในเครือไฮเดลเบิร์ก หรือ คู่ค้าของบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจร่วมกัน โดยทางบริษัทจะเปิดเผยข้อมูลเท่าที่จำเป็นกับการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้

2) ผู้ให้บริการทั้งเป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลที่บริษัทมอบหมายหรือว่าจ้างให้ดำเนินงานใด ๆ เช่น การให้บริการด้านคลังสินค้าและโลจิสติกส์ การเช่าพื้นที่ หรือการจัดการเกี่ยวกับอาคารและสถานที่ หรือบริการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทหรืออาจเป็นประโยชน์ต่อเจ้าของข้อมูล

3) หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นที่มีอำนาจตามกฎหมาย รวมถึงเจ้าพนักงาน หรือหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เช่น กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นต้น

4) หน่วยงานรัฐวิสาหกิจหรือเอกชน เช่น ธนาคาร สถาบันการเงิน เป็นต้น

5) ที่ปรึกษาของบริษัท เช่น ผู้ตรวจสอบบัญชี ผู้ตรวจประเมินภายนอก ผู้ดำเนินการจัดกิจกรรมทางการตลาด ทนายความหรือที่ปรึกษากฎหมาย เป็นต้น

6) บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูล

5. สิทธิในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยสิทธิต่างๆ เป็นไปตามกฎหมาย ดังนี้

1) สิทธิที่จะได้รับการแจ้งหากมีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปประมวลผล หรือหากบริษัทได้รับข้อมูลจากแหล่งอื่นมาเพื่อประมวลผล หรือนำใปประมวลผลในวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากที่แจ้งไว้ บริษัทมีหน้าที่ในการแจ้งเจ้าของข้อมูลให้ทราบ

2) สิทธิที่จะทราบหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท หรือขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลที่ไม่ได้มีการให้ความยินยอมไว้

3) สิทธิที่จะขอให้บริษัทดำเนินการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพื่อให้ข้อมูลถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

4) สิทธิในการขอให้บริษัทส่ง/โอนข้อมูลส่วนบุคคลของตนที่มีการใช้และเปิดเผยแบบอัตโนมัติด้วยระบบต่างๆ หรือด้วยโปรแกรม หรือเครื่องมือที่มีการประมวลผลอัตโนมัติไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น รวมถึงการขอรับข้อมูลดังกล่าวจากบริษัท

5) สิทธิขอเพิกถอนความยินยอมที่ให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้การเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการทำธุรกรรมบางอย่างกับบริษัท หรือมีอาจผลต่อประสิทธิภาพในการดำเนินการ หรือให้บริการของบริษัท

6) สิทธิขอให้บริษัทลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลด้วยเหตุบางประการได้

7) สิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีดังต่อไปนี้

  • เมื่อบริษัทอยู่ในระหว่างการตรวจสอบตามที่เจ้าของข้อมูลร้องขอให้ดำเนินการแก้ไข เปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของตน

  • เมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือทำลาย แต่เจ้าของข้อมูลขอให้ระงับการใช้แทนการลบหรือทำลาย

  • เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นที่บริษัทจะเก็บรักษา แต่เจ้าของข้อมูลมีความจำเป็นต้องขอให้บริษัทเก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

  • เมื่อมีการขอใช้สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัทอยู่ในระหว่างการพิสูจน์หรือตรวจสอบตามคำขอใช้สิทธิในการคัดค้านดังกล่าว เพื่อดูว่าบริษัทมีอำนาจตามกฎหมายที่จะปฏิเสธคำขอคัดค้านดังกล่าวหรือไม่

8) สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเมื่อใดก็ได้ ในกรณีดังต่อไปนี้

  • กรณีที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวมได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่มอบให้กับบริษัท เว้นแต่บริษัทสามารถพิสูจน์ได้ว่าการประมวลผลข้อมูลนั้นแสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่าผลประโยชน์สิทธิ เสรีภาพของเจ้าของข้อมูล หรือการประมวลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นทำเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

  • กรณีที่เป็นการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง

  • กรณีที่เป็นการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่เป็นความจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท

9) สิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัทหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือประกาศที่ออกตามกฎหมาย

ทั้งนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิข้างต้นและดำเนินการตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด หากท่านประสงค์จะใช้สิทธิข้างต้นสามารถดำเนินการโดยติดต่อช่องทางการติดต่อตามนโยบายฉบับนี้

6. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจร่วมกับบริษัท จึงกำหนดให้มีนโยบาย และ/หรือแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย และตามมาตรฐาน General Data Protection Regulation (GDPR) ของเครือสหภาพยุโรป เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

บริษัทจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่ประกอบด้วยมาตรการเชิงองค์กร (organizational measures) และมาตรการเชิงเทคนิค (technical measures) ที่เหมาะสม ซึ่งอาจรวมถึงมาตรการทางกายภาพ (physical measures) ที่จำเป็นด้วย

7. การโอนข้อมูลไปต่างประเทศ

บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือกิจการที่อยู่ต่างประเทศ หรือไปยังผู้รับข้อมูลอื่นซึ่งเป็นไปเพื่อการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัท เช่น บริษัทผู้ให้บริการภายนอก (Outsource) ในประเทศต่างๆ ภายใต้วัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ บริษัทจะดำเนินการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมาย รวมถึงจัดให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด

8. การทบทวนนโยบาย

บริษัทและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการทบทวน ปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ให้เป็นไปตามความเหมาะสมในการดำเนินธุรกิจและตามข้อกฎหมายฉบับปัจจุบัน

9. การบังคับใช้ทางกฎหมาย

นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้อยู่ภายใต้การบังคับใช้ และการตีความตามกฎหมายของประเทศไทย หน่วยงานตุลาการของประเทศไทยถือเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทใดๆ ที่อาจเกิดขึ้น

10. ช่องทางติดต่อ

หากท่านประสงค์จะติดต่อ หรือมีข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามนโยบายฉบับนี้ หรือกรณีที่พบว่ามีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปในทางที่ไม่ชอบ ท่านสามารถติดต่อได้ทางช่องทางดังต่อไปนี้

 

บริษัท ไฮเดลเบิร์ก กราฟฟิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด

163 ชั้น 19 อาคารไทยสมุทรประกันภัย ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500

เจ้าหน้าที่ประสานงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Coordinator)

dataprotection.hth@heidelberg.com

โทร. + 66 (2) 491 5000

 

 

ติดต่อ บจก.ไฮเดลเบิร์ก กราฟฟิคส์ (ประเทศไทย)

เราหวังว่าจะได้รับข้อความจากคุณ
เพื่อให้สามารถตอบสนองคำขอของคุณได้อย่างรวดเร็ว เราต้องการข้อมูลบางอย่าง
โปรดกรอกข้อมูลดังนี้*